6 สุนัขพันธุ์ใหญ่ไว้เฝ้าบ้าน

6 สุนัขพันธุ์ใหญ่ไว้เฝ้าบ้าน

หมาพันธุ์ใหญ่ น่ารัก เลี้ยงง่าย ใช้เป็น Guard Dog ช่วยเฝ้าบ้านได้

            มาเริ่มกันที่สุนัขพันธุ์ใหญ่กันก่อนเลยดีกว่า สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่คิดว่าหมาพันธุ์เล็กยังไม่โดนใจ ลองมาหาสุนัขพันธุ์ใหญ่กอดอุ่นๆไว้เป็นเพื่อนเล่นยามเหงา และทำหน้าที่เฝ้าบ้านไปในเวลาเดียวกัน ขอบอกไว้ก่อนว่าใบบทความนี้เราได้เตรียมราคาซื้อ-ขาย โดยประมาณของสุนัขพันธ์ุใหญ่แต่ละพันธุ์ แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนชอบและอยากเช็คราคาสุนัขพันธ์ุเล็ก ทางเราก็มีเตรียมไว้ให้เช่นกัน

            เมื่อทราบราคาสุนัขแต่ละสายพันธุ์คร่าวๆแล้วก็อย่ารอช้ากันอยู่เลยครับ วันนี้ Yora Thailand ขอแนะนำ 18 สายพันธุ์น้องหมาพันธุ์ใหญ่ น่ารักน่าเลี้ยง ไว้เป็นเพื่อนสี่ขา เป็นพี่ใหญ่ใจดี แต่ก็ดูน่าเกรงขาม และสามารถปกป้องคนในครอบครัวได้ โดยเรารวมเอาข้อมูลของน้องหมา ได้แก่ ลักษณะทั่วไป นิสัยใจคอ โรคต่าง ๆ ที่ควรระวัง ราคาโดยประมาณ ฟาร์มแนะนำในไทย และอาหารที่เหมาะสมไว้ให้แล้ว เอาหล่ะ อย่ารอช้า ไปดูกันเลยครับ

1.อลาสกัน มาลามิวท์

เริ่มต้นกันที่เจ้าหมาตัวยักษ์กอดอุ่นอย่าง ‘อลาสกัน มาลามิวท์’ ที่มักจะโดนเข้าใจผิดว่าเป็น ไซบีเรียน ฮัสกี้ แต่จริง ๆ แล้วสองสายพันธุ์นี้มีความแตกต่างกันอยู่เหมือนกันนะครับ โดยเฉพาะเรื่องของขนาดที่อลาสกันจะตัวใหญ่กว่าชัดเจน แต่ในส่วนของความซุกซนนั่นก็แอบเป็นรองฮัสกี้อยู่นิดหน่อย จุดกำเนิดของสุนัขพันธุ์นี้มาจากชนเผ่ามาลามิวท์ (Malamute) ที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของอลาสก้า ทำหน้าที่เป็นสุนัขลากเลื่อนของหนัก ๆ ไปตามเส้นทางหิมะ เพราะน้องหมาตัวใหญ่พันธุ์นี้มีพละกำลังมาก และแรงเยอะสุด ๆ ไปเลย

ลักษณะทั่วไป

  • หูตั้งเป็นสามเหลี่ยม จมูกยาว
  • โครงสร้างกระดูกใหญ่ และแข็งแรงมาก
  • ขนฟูปุกปุยทั่วตัว มีหลายสี
  • น้ำหนักเฉลี่ย 30 – 40 กิโลกรัม

นิสัยและไลฟ์สไตล์

  • รักอิสระ ชอบผจญภัยท่องโลกกว้าง
  • กระตือรือร้น (แต่ไม่ซนเท่าเจ้าฮัสกี้)
  • เป็นมิตรกับมนุษย์ ชอบอยู่ใกล้ ๆ เจ้าของ
  • ไม่ค่อยเห่า แต่อาจจะหอนแทน บรู๊วววว

โรคที่ควรระวัง

            โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia) เกิดขึ้นบ่อยมากในสุขันที่มีน้ำหนักตัวเยอะ มักเริ่มต้นมาจากกระดูกข้อต่อขาหลังหลวม หากปล่อยไว้ไม่รักษาให้ทันท่วงทีก็อาจนำไปสู่อาการอัมพาตจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ปกติ ป้องกันได้โดยการให้อาหารที่ค่าโภชนาการเหมาะสม และออกกำลังกายแบบพอดี

            อาหารที่เหมาะสม : เพราะพี่ใหญ่พันธุ์อลาสกันมีร่างกายที่แข็งแรง พร้อมวิ่งเล่นออกกำลังกายอยู่ตลอดเวลา อาหารจึงเป็นส่วนสำคัญมากที่จะทำให้เจ้าตูบมีคุณภาพชีวิตที่สมบูรณ์ เจ้าของควรเลือกอาหารสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ที่มีคุณภาพ มีปริมาณโปรตีนสูง รวมไปถึงมีสารอาหารอื่น ๆ ในปริมาณที่เหมาะสม ต้องแบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ ระหว่างวัน และจำกัดปริมาณอาหารให้พอดี เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน ยิ่งช่วงที่น้องแก่ตัวลง น้ำหนักสุนัขพันธุ์นี้จะขึ้นได้ง่าย และความคึกอาจจะลดลงแม่แก่ตัวลง จึงต้องมีวิธีการดูแลสุนัขพันธุ์นี้เป็นพิเศษเมื่อแก่ตัวลงไป

ราคา : 40,000 – 80,000 บาท

2.คอลลี่

สุนัขพันธุ์ ‘คอลลี่’ น้องหมาต้อนแกะแสนฉลาดของประเทศสกอตแลนด์ เป็นอีกหนึ่งหมาพันธุ์ใหญ่ขนยาวที่น่ารักตลอดกาล เพราะด้วยหน้าตาอันบ๊องแบ๊ว ผสานกับความฉลาดรอบรู้ของเจ้าตูบพันธุ์นี้ รับรองว่าจะต้องกลายเป็นที่รักของคนทั้งบ้านแน่นอนครับ และถึงแม้เมื่อก่อนเจ้าคอลลี่จะเคยเป็นแรงงานในฟาร์มแกะ แต่ในปัจจุบันเราอาจะเห็นน้องหมาพันธุ์นี้เข้าร่วมรายการแข่งขัน โดยสามารถโชว์ทักษะวิ่งไวและทำตามคำสั่งได้อย่างเฉียบคม บอกเลยว่าสอนให้ทำตามคำสั่งได้ไม่ยากแน่นอนครับ

ลักษณะทั่วไป

  • จมูกยาวอย่างเห็นได้ชัด
  • ขนยาวตรง เงาสรวย
  • ใบหูใหญ่เป็นสามเหลี่ยม
  • อายุเฉลี่ย 10 – 16 ปี

นิสัยและไลฟ์สไตล์

  • กระตือรือร้น ชอบเล่นซนตลอดเวลา
  • เข้ากับทุกคนในครอบครัวได้ดี
  • รักเด็ก เหมาะสำหรับบ้านที่มีน้อง ๆ
  • อาจจะเห่าไม่หยุด เมื่อเบื่อ หรือเจอคนแปลกหน้า

โรคที่ควรระวัง

            มะเร็งในสุนัข (Dogs Cancer) จากผลสำรวจพบว่ามากกว่าหนึ่งส่วนสี่ของสุนัขพันธุ์นี้เจอปัญหาเรื่องมะเร็ง ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น กรรมพันธุ์ สิ่งแวดล้อม และอาหาร เจ้าของควรป้องกันแต่เนิ่น ๆ ในเรื่องที่ควบคุมได้ โดยเฉพาะการใส่ใจเลือกเรื่องอาหารคุณภาพสูง

            อาหารที่เหมาะสม : อาหารที่เหมาะสมของเจ้าตูบพันธุ์คอลลี่ คืออาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าโภชนาการสูง เพื่อให้สมดุลกับพลังงานที่คอลลี่ต้องใช้วิ่งเล่นในแต่ละวันและบำรุงขนให้สรวยอยู่เสมอ เจ้าของควรคำนวณปริมาณอาหารที่เหมาะสมของน้องหมาแต่ละตัว โดยปกติแล้วหมาพันธุ์นี้ต้องการโปรตีนที่มากกว่าปกติเล็กน้อย และควรแบ่งออกเป็น 2 – 3 มื้อย่อยต่อวัน

ราคา : 6,000 – 30,000 บาท

3.ไซบีเรียน ฮัสกี้

หนึ่งในสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่นิยมเลี้ยงกันสุด ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้าฮัสกี้ ขนปุย ตาฟ้า มองมุมไหนก็หล่อเท่ห์ใช่เล่น สุนัขพันธุ์นี้ถือว่ามีพลังล้นเหลือ กระตือรือร้น มีเสน่ห์ในตัว มีความขี้อ้อน ชอบอยู่ใกล้เจ้าของ บางตัวมีพรสวรรค์สามารถพูดหรือร้องเพลงได้ด้วย โดยต้นกำเนิดของพันธุ์นี้มาจากแถบไซบีเรียของประเทศรัสเซีย เริ่มมาจากการเป็น Working Dog หรือสุนัขใช้งานมาก่อน โดยส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เป็นหมาลากเลื่อนอยู่บริเวณเขตพื้นที่หนาวเย็น แต่ถึงแม้ว่าจะทำงานหนักได้ แต่เจ้านี้ก็แสบใช่เล่น จนได้ฉายาว่า ‘ไซบีลิง’ เลยล่ะครับ วิธีดูแลหมาพันธุ์ไซบีเรียนก็ไม่อยากครับ แค่ปล่อยให้น้องได้วิ่งเยอะๆ เพราะสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนพลังงานล้นเหลือมาก

ลักษณะทั่วไป

  • มีขนฟูหนา ดวงตารูปอัลมอนด์
  • หูตั้งสง่าเป็นรูปสามเหลี่ยม รับสัญญาณเสียงได้ชัดเจน
  • จมูกยาวกำลังดี ประสาทรับกลิ่นดีมาก
  • น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 18 – 27 กิโลกรัม

นิสัยและไลฟ์สไตล์

  • พลังงานเหลือล้น ชอบวิ่งซน
  • ร่าเริง อารมณ์ดี ขี้อ้อน
  • ชอบหอนมากกว่าเห่า บางตัวร้อง chorus ตามได้เลย
  • ฉลาด เรียนรู้ง่าย (ล็อกกรงดี ๆ นะครับ เพราะเค้าอาจแอบเปิดประตูกรงเองได้)

โรคที่ควรระวัง

            โรค GDV : Gastric Dilatation Volvulus (กระเพาะอาหารขยายและบิดตัว) มักเกิดจากการที่เจ้าฮัสกี้รีบกินอาหารหรือน้ำในปริมาณที่มากเกินไปหลังวิ่งเล่นเสร็จ จนเกิดการบิดตัวของกระเพาะอาหารจนเสียชีวิต หลีกเลี่ยงได้ด้วยการใส่ใจดูแลเรื่องปริมาณอาหารและน้ำ ไม่วางเผื่อไว้จนเยอะเกินไป แถมยังมีโรคต่างๆในสุนัขที่ต้องระวังเมื่อสุนัขพันธุ์นี้อายุเยอะขึ้น อย่างที่เคยได้ยินกันว่าหมาเมืองนอกมักจะอ่อนแอป่วยง่ายก็อาจจะไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงไปนัก

            อาหารที่เหมาะสม : ใครสนใจอยากเลี้ยงเจ้าตูบพันธุ์นี้ ต้องแน่ใจว่ามีพื้นที่มากพอให้เขาได้วิ่งเล่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง แต่ถึงแม้ว่าฮัสกี้จะใช้พลังงานเยอะ แต่เขากลับต้องการอาหารที่พอดี ไม่มากจนเกินไป เพราะฉะนั้นเจ้าของต้องมั่นใจว่าสิ่งที่น้อง ๆ ได้รับนั้นมีคุณภาพ มีโปรตีนสูง เป็นอาหารเกรดพรีเมี่ยม ครบถ้วนตามโภชนาการที่หมาพันธุ์ใหญ่ต้องการ

ราคา : 6,000 – 50,000 บาท

4.ชามอย

นอกเหนือจากพี่เบิ้มขนปุยสายพันธุ์อื่นแล้ว สุนัขพันธุ์ชามอย ก็ถือเป็นอีกพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย เพราะด้วยอุปนิสัยที่เฟรนด์ลี่และชอบเจอผู้คน ทำให้ชามอยเป็นทั้งสุนัขเฝ้าบ้านที่ดีและยังสามารถพาออกไปเที่ยวเล่นได้ไม่ต่างกับหมาพันธุ์เล็กเลย และถึงแม้ต้นกำเนิดจะเคยเป็นหมาล่ากวางมาก่อน ก็ไม่ทำให้ชามอยลดความหล่อเหลาลงแม้แต่น้อย แถมยังมีรอยยิ้มที่น่ารักน่าเอ็นดู ที่เรียกกันว่า Sammie Smile อีก รับรองว่าเดินไปทางไหนต้องมีคนหยุดเล่นกับน้องแน่นอน

ลักษณะทั่วไป

  • น้ำหนักประมาณ 20 – 30 กิโลกรัมง
  • ขนสีขาวปุกปุยทั้วตัว (เหมือนหมีโพลาเลย!)
  • หางม้วนเป็นพุ่ม ชี้สวยงาม
  • มีอายุขัยยาวนานถึง 12 – 14 ปี

นิสัยและไลฟ์สไตล์

  • มีความกล้าหาญและอดทน
  • กระตือรือร้น ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
  • มักอ้อนเจ้าของ ต้องการความรักอยู่ตลอดเวลา
  • เข้ากับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ได้ดี

โรคที่ควรระวัง :

            มีข้อมูลระบุไว้จาก American Kennel Club ว่าน้องหมาพันธุ์ชามอยค่อนข้างที่จะแข็งแรงถ้าเทียบกับสุนัขใหญ่พันธุ์อื่นๆ แต่อาจเจอปัญหาทั่วไปเช่น โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia), ปัญหาเกี่ยวกับตา หรือโรคเกี่ยวกับหัวใจ สิ่งสำคัญคือเจ้าของต้องหมั่นแปรงฟันให้ชามอยบ่อยๆ เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีด้วยนะครับ

            อาหารที่เหมาะสม : ไม่ต่างจากสุนัขพันธุ์อื่นๆ พี่หมีขาวชามอยเองก็ต้องการอาหารที่มีคุณภาพสูง เต็มเปี่ยมไปด้วยโภชนาการ และมีความหลากหลาย ควรเลือกอาหารให้เหมาะกับช่วงวัยรวมไปถึงควบคุมปริมาณอาหารให้พอเหมาะพอดี ไม่มากจนเกินไปที่อาจทำให้เกิดปัญหาน้ำหนักเกินได้

ราคา : 40,000 บาทขึ้นไป

5.เยอรมัน เชพเพิร์ด

หลาย ๆ คนอาจเคยเห็นเจ้าหมาพันธุ์ ‘อัลเซเชี่ยล’ หรืออีกชื่อคือ ‘เยอรมันเชพเพิร์ด’ ทำหน้าที่เป็นสุนัขตำรวจสุดเท่ห์กันใช่ไหมล่ะครับ ก็เพราะสุนัขพันธุ์นี้ฉลาด และทำตามคำสั่งได้ดีสุด ๆ เหมาะมากกับบ้านที่กำลังตามหาสุนัขเฝ้าบ้านนิสัยใจดี สามารถเข้าได้กับทุกคนในบ้าน แต่กลับดุดันและห้าวหาญกับใครก็ตามที่เข้ามาเยือนถิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาต รับรองว่างานนี้โจรมีกระเจิง! เป็นอีกหนึ่งหมาพันธุ์ใหญ่น่าเลี้ยงที่แนะนำเลยครับ

ลักษณะทั่วไป

  • โครงสร้างใหญ่ น้ำหนักอยู่ที่ 22 – 40 กิโลกรัม
  • หูตั้ง รับสัญญาณเสียงได้ดี
  • จมูกยาวสีดำ ดมกลิ่นได้อย่างแม่นยำ
  • อายุเฉลี่ยประมาณ 9 – 13 ปี

นิสัยและไลฟ์สไตล์

  • ฉลาด และเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าของ
  • ซื่อสัตย์ สามารถป้องกันอันตรายที่จะเข้ามาถึงตัวเจ้าของได้ดี
  • กระตือรือร้น ชอบผจญภัยค้นหาสิ่งรอบตัว
  • ใจดี แต่จะไม่เข้าหาคนแปลกหน้าก่อน

โรคที่ควรระวัง

            โรคไขสันหลังเสื่อม (Degenerative Myelopathy) เป็นโรคที่มักเกิดกับสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่เคลื่อนตัวหรือออกกำลังกายบ่อย โดยจะเริ่มจากการอักเสบบริเวณระบบประสาทและทำให้น้องหมาเป็นอัมพาตในที่สุด

            อาหารที่เหมาะสม : อาหารที่เหมาะสมกับสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด คืออาหารที่มีสารอาหารคุณภาพสูง เพราะเจ้าตูบพันธุ์นี้ต้องใช้พลังงานในการออกกำลังกายและทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าบ้านที่ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เจ้าของควรเลือกอาหารที่ไม่มีส่วนประกอบของ By-product (เศษอาหารเหลือแปรรูป) และควรจำกัดเรื่องปริมาณไขมันในอาหาร เพราะหากน้องหมาน้ำหนักมากจนเกินไป ก็อาจนำไปสู่ปัญหาด้านกระดูกข้อต่อในอนาคตได้ครับ

ราคา : 8,000 – 50,000 บาท

6.ดัลเมเชี่ยน

ลำตัวสูง เจ้าสุนัขลายจุดสุดน่ารักสายพันธุ์นี้ ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับบ้านที่ต้องการเพื่อนเล่นสี่ขาและสุนัขเฝ้าบ้านไปในเวลาเดียวกัน ในความจริง สุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยนถือว่ามีความเฟรนด์ลี่และขี้เล่น แต่มักจะเห่าเมื่อไม่พอใจ หรือเมื่อรู้สึกว่ากำลังมีภัยอันตรายเข้ามาใกล้ตัว นั่นก็เป็นเพราะว่าในอดีต เจ้าลายจุดพันธุ์นี้เคยทำหน้าที่เป็นสุนัขป้องกันภัยคุกคามให้กับรถม้านั่นเอง รับรองว่าหมาตัวใหญ่พันธุ์นี้จะช่วยคุ้มครองบ้านของคุณได้แน่นอนครับ

ลักษณะทั่วไป

  • ลำตัวสูง แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ ไม่อ้วน
  • ตัวสีขาว มีลายจุดสีน้ำตาลหรือสีดำทั้งตัว
  • น้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม

นิสัยและไลฟ์สไตล์

  • ขี้เล่น​ ซน และกระตือรือร้นตลอดเวลา
  • เฟรนด์ลี่ สามารถเข้ากับบ้านที่มีเด็กได้
  • พลังงานล้นเหลือ ต้องออกกำลังกายทุกวัน
  • มีความอดทน จะไม่เห่าพร่ำเพร่อ นอกจากว่าจำเป็นจริง ๆ

โรคที่ควรระวัง

            โรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (Urinary Stone) เป็นโรคที่มักเกิดขึ้นในน้องหมาสายพันธุ์ดัลเมเชี่ยล เบื้องต้นมักแสดงอาการมีเลือดปนในปัสสาวะ, กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และอยากอาหารน้อยลง โดยวิธีการป้องกันคือหมั่นให้น้ำที่สะอาดอย่างสม่ำเสมอ และต้องมั่นใจว่าอาหารที่ให้สุนัขนั้นมีสารอาหาร และวิตามินต่าง ๆ อย่างพอดี ไม่มากเกินไปจนทำให้เกิดผลึกนิ่วได้

            อาหารที่เหมาะสม : เจ้าหมาลายจุดพันธุ์นี้เรียกได้ว่ามีความไฮเปอร์สุด ๆ มีความแอคทีฟ และวิ่งเล่นได้แทบทั้งวัน เพราะฉะนั้นสารอาหารที่เจ้าดัลเมเชี่ยนควรได้รับต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่น้อยไปจนทำให้น้องหมาเกิดภาวะขาดสารอาหาร โดยเน้นไปที่อาหารโปรตีนสูง รวมถึงมีคาร์โบไฮเดรต และไขมันดีในเปอร์เซ็นต์ที่สมดุล

ราคา : 7,000 – 20,000 บาท

HOM สเปรย์กำจัดกลิ่นด้วยวิธีการทางชีวภาพ ประกอบไปด้วยจุลินทรีย์และเอนไซม์ที่สามารถกำจัดกลิ่นเหม็น อันเกิดจากสัตว์เลี้ยง คราบปัสสาวะบนผ้า พรม พื้นทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถฉีดพ่นบนตัวสัตว์เลี้ยง หรือ คราบที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงได้โดยตรงอย่างปลอดภัย

คุณสมบัติ 

  • แก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นจากสัตว์เลี้ยง เจ้าของสบายใจ สัตว์เลี้ยงแข็งแรง
  • แก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่ พื้นที่เลี้ยงสัตว์ เจ้าของหายเหนื่อย สัตว์เลี้ยงแข็งแรง
  • ปัสสาวะของสัตว์เลี้ยง จะมีสารประกอบ Ammonia ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต หากสูดดมในปริมาณมากกว่า 35 ppm. สามารถทำอันตรายต่อระบบหายใจได้
  • ทรายแมวเป็นที่สะสมของเชื้อโรคอันตราย จากการขับถ่ายของเสียสัตว์เลี้ยง โดยจุลินทรีย์ มีความสามารถในการยับยั้งการเจริญของเชื้อก่อโรคเหล่านั้นได้


วิธีใช้
ฉีดหอมให้ทั่วพื้น เบาะ โซฟา บริเวณที่เกิดคราบ หรือบริเวณที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยง รอ 10-15 นาทีแล้วซับน้ำส่วนเกินออก

ขนาดบรรจุ : 100/300ml

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *