6 สายพันธุ์ม้าที่นิยมมากที่สุดในโลก

6 สายพันธุ์ม้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก (Bactocel 4001)

            ไม่ว่ากี่ยุคสมัย ม้ายังคงเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอ  เพราะนอกจากจะใช้เป็นพาหนะสำหรับการเดินทาง ตลอดจนการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันแล้ว ยังมีรูปร่างที่สวยงามอีกด้วย โดยเฉพาะพันธุ์ม้าในประเทศไทยซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ร่างกายแข็งแรงกำยำ และมีกีบที่แข็งและหนา รวมไปถึง เป็นสายพันธุ์ม้าที่มีพฤติกรรมค่อนข้างเป็นมิตรกับมนุษย์อีกด้วย

            ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักจะนำม้ามาใช้ในการแข่งขัน การขยายพันธุ์ และอื่นๆ บทความนี้จึงมาแนะนำเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับม้า ไม่ว่าจะเป็นลักษณะหรือประเภทของม้า รวมไปถึงพันธุ์ม้าที่นิยมนำมาเลี้ยง ตลอดจนวิธีการดูแลม้าเพื่อให้สามารถเลี้ยงได้อย่างถูกต้อง ทำให้ผู้เลี้ยงสามารถใช้ชีวิตอยู่กับม้าได้อย่างมีความสุขเสมือนมีเพื่อนคู่ใจเพิ่มอีกคนหนึ่ง

พันธุ์ม้าที่นิยมนำมาเลี้ยง

  1. ม้าพันธุ์ไทย


ม้าไทย โดยส่วนใหญ่จะมีโครงสร้างร่างกายที่แข็งแรง กล้ามเนื้อแน่นและสวยงาม อีกทั้งยังมีกีบเท้าที่แข็งและทนต่อสภาพแวดล้อมและอากาศได้ดี ซึ่งเดิมทีนั้นม้าพันธุ์ไทยมีการสืบเชื้อสายมาจากม้าสายพันธุ์มองโกเลีย ที่มีจุดเด่นในเรื่องความเร็วและสามารถรับน้ำหนักได้ดี โดยในปัจจุบัน ม้าพันธุ์ไทยส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์ผสม

  1. Arabian Horse

Arbian Horse หรือม้าพันธุ์อารเบียน เป็นม้าเลือดร้อนที่มีถิ่นกำเนิดจากแหล่งพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง จึงทำให้ร่างกายกำยำ รูปร่างสูงโปร่ง อีกทั้งยังมีความแข็งแรงอีกด้วย จึงเป็นพันธุ์ม้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย ม้าอาหรับเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลกมานานแล้ว Hailing จากคาบสมุทรอาหรับสายพันธุ์นี้สามารถมองเห็นได้ง่ายด้วยรูปร่างที่โดดเด่นและการขนส่งหางสูงที่ภาคภูมิใจ

  1. American Quarter Horse

American Quarter Horse เป็นหนึ่งในม้าที่คนส่วนใหญ่มีความต้องการเลี้ยงสูง เพราะนอกจากจะเป็นม้าเลือดเย็นที่มีรูปร่างสวยงามแล้ว ยังเป็นม้าที่มีความรวดเร็วอย่างยิ่ง นอกจากนั้น ยังเหมาะสำหรับนำมาทำเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์ม้าหรือขี่เพื่อสันทนาการอีกด้วย

4.Morgan Horse

Morgan Horse คือม้าพันธุ์ดีจากอเมริกาที่มีรูปร่างบึกบึน กำยำ และมีกำลังขาที่มหาศาล จึงทำให้ในสมัยก่อนนิยมใช้ในการแข่งขันขี่ม้าหรือทางการทหาร ด้วยลักษณะและพฤติกรรมของม้าชนิดนี้ที่ค่อนข้างเชื่อง เมื่อผ่านการเลี้ยงดูและฝึกฝนมาอย่างดีแล้ว อีกทั้งสำหรับคนที่สงสัยว่าม้ากินอะไรเป็นอาหารนั้น ม้าสายพันธุ์นี้สามารถทานได้ทั้งอาหารหยาบและข้นเลย  ขนาดกะทัดรัดกล้าหาญและยอมรับได้ม้ามอร์แกนเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความเก่งกาจ หนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดที่พัฒนาในประเทศสหรัฐอเมริกา Morgans ทั้งหมดติดตามกลับไปที่บาทหลวงมูลนิธิรูปขนาดเล็ก แต่มีขนาดใหญ่ในหัวใจพวกมันถูกใช้เป็นม้าขี่ม้าและม้าขับรถในปัจจุบันและมีความโดดเด่นในด้านตะวันตกและที่นั่งในอานม้า ม้ามอร์แกนยังเป็นสัตว์ประจำรัฐของรัฐเวอร์มอนต์

5.Paint Horse

Paint Horse หรือ American Paint Horse เป็นม้าตะวันตกที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เนื่องจากมีสายเลือดของม้าพันธุ์ American Qaurter หรือ Thoroughbred อยู่ จึงทำให้เป็นสัตว์ที่มีทั้งความสวยงามและแข็งแรงอีกด้วย American Paint Horse เป็นการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของลักษณะโครงสร้างของม้าสต็อคตะวันตกและสีของปินโต ในขณะที่บางคนคิดว่าสีเป็น “สายพันธุ์สี” สมาคมม้าเพนท์อเมริกันถือว่าพวกเขาเป็นสายพันธุ์ที่แท้จริงเนื่องจากสีมีความต้องการสายเลือดที่เข้มงวดและลักษณะของสายพันธุ์ที่โดดเด่น

6.Thoroughbred Horse

มาถึงม้าพันธุ์สุดท้ายกับ Thoroughbred Horse หรือม้าพันธุ์เธอร์รัพเบรตที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการวิ่ง ดังนั้น จึงมักจะเห็นได้จากกีฬาการแข่งขันขี่ม้า นอกจากนั้น ยังเป็นสัตว์ที่มีอัตราการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพฤติกรรมของม้าชนิดนี้ที่ดูดุร้าย จึงต้องอาศัยความระมัดระวังในการขี่ สายเลือดเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดสำหรับการใช้งานในการแข่งม้า พัฒนาขึ้นในอังกฤษในศตวรรษที่ 17 และ 18 สายพันธุ์นี้มีชีวิตชีวาสูงและเป็นที่รู้จักในเรื่องหัวใจ พวกเขาสร้างม้ากีฬาที่ยอดเยี่ยมและใช้เป็นนักล่าและจัมเปอร์

การดูแลม้า

            ก่อนตัดสินใจเลี้ยงม้า ควรทำความรู้จักกับลักษณะและพฤติกรรมต่างๆ ของม้า เช่น ม้ากินอะไรเป็นอาหาร ม้านอนกี่ชั่วโมง หรือม้ามีกี่ชนิด เพราะจะช่วยให้ผู้เลี้ยงสามารถตัดสินใจเลือกพันธุ์ได้ดีขึ้น รวมถึง จะต้องรู้วิธีการดูแลม้าอย่างไรให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์และมีอายุยืนยาว

  • บำรุงร่างกายด้วยโภชนาการที่ดี

สำหรับคำถามที่ว่าม้ากินอะไรเป็นอาหารนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะมี 2 สิ่งหลักๆ คือ อาหารหยาบหรือหญ้าและพืชที่มีกากใยสูง และอาหารเม็ดที่อุดมไปด้วยสารอาคาร แต่ทั้งนี้จะต้องดูถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น รูปร่างของม้า เพื่อจะได้ให้อาหารในปริมาณที่เหมาะสม

  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยและนอนหลับพักผ่อน

ม้าเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจโดยธรรมชาติ เมื่อเจอคนหรือสิ่งรบกวนอาจก่อให้เกิดความกลัวหรือความเครียดขึ้นได้ ดังนั้น การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะช่วยให้ม้ามีสุขภาพจิตที่ดี ยกตัวอย่างเช่น การจัดให้ม้าได้อยู่อาศัยในสถานที่ที่เป็นทุ่งหญ้าหรือพื้นที่กว้าง เพราะม้าเป็นสัตว์ที่ชอบวิ่ง หรือการจัดคอกม้าให้มีความสงบปราศจากสิ่งรบกวน เพื่อให้ม้าสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

  • พาออกไปวิ่งเล่น

ด้วยพฤติกรรมของม้าที่ชอบเคลื่อนไหวหรือวิ่ง การพาม้าออกไปวิ่งเล่นจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้ม้าได้ใช้ร่างกายเคลื่อนไหว รวมถึง ยังช่วยลดความเครียด และเพิ่มความสุขให้กับม้าอีกด้วย

  • อาบน้ำให้สะอาด

เนื่องจากม้าเป็นสัตว์ที่มีขน ดังนั้น เพื่อสุขภาพขนและผิวที่ดีของม้า จึงควรหมั่นอาบน้ำให้ม้าอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ ที่อาจเป็นสาเหตุให้ม้าเกิดอาการเจ็บป่วยได้

  • ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

เพื่อให้มั่นใจว่าม้าทุกตัวจะแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปีจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการป่วย อีกทั้งยังช่วยให้รับรู้ลักษณะหรืออาการที่ม้าเป็นอยู่อีกด้วย

  • มอบความรักและความอบอุ่นให้ม้า

แม้ว่าจะมีการบำรุงม้าด้วยโภชนาการที่สำคัญ หรือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี และอื่นๆ จะช่วยให้ม้ามีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ แต่การมอบความรักและความอบอุ่นกับม้าก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมพฤติกรรมของม้าไปในแง่ที่ดีมากยิ่งขึ้น

            ด้วยม้าเป็นสัตว์ที่มีจุดเด่นและสวยงาม โดยเฉพาะพันธุ์ม้าในประเทศไทย ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่แสนโดดเด่น จึงทำให้เป็นที่ต้องการหลายคน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงม้านั้น จะต้องทำการศึกษาพฤติกรรมของม้าให้ดีก่อนว่า ม้ากินอะไรเป็นอาหาร ม้านอนยังไง หรือม้านอนกี่ชั่วโมง และอื่นๆ ซึ่งอาจต้องคำนึงถึงนิสัย พฤติกรรม หรืออายุของม้า เพื่อให้มั่นใจว่าสัตว์เลี้ยงคู่ใจจะมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ รวมไปถึงสภาพอารมณ์และจิตใจที่ดีอีกด้วย

Bactocel 4001  ผลิตภัณฑ์ชีวภาพกำจัดกลิ่นเหม็นและของเสียในคอกสัตว์


แบคโตเซล 4001 คือ กลุ่มของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ สามารถช่วยย่อยสลายสิ่งปฏิกูลและเศษอาหารที่เหลือตกค้างในคอกสัตว์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นช่วยป้องกันโรคต่างๆ ที่เกิดกับสัตว์เลี้ยง ตลอดจนปัญหาแมลงวันรบกวนจะหมดไปรวมถึงช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับมลภาวะต่างๆ ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญภานในฟาร์ม และชุมชนให้หมดไป

คุณสมบัติ
1.      ย่อยสลายสิ่งปฏิกูลและเศษอาหารที่เหลือตกค้างในคอกสัตว์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นช่วยป้องกันโรคต่าง ๆเกิดกับสัตว์เลี้ยง

วิธีการใช้
1. คอกหมู : ใช้ แบคโตเซล 4001 ในอัตรา 100 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วพื้นที่คอก สัปดาห์ละครั้ง ทำให้คอกสัตว์สะอาด ปราศจากกลิ่นเหม็นและแมลงวัน อีกทั้งสามารถป้องกันโรคต่างๆได้ หากหมูเป็นโรคปากเท้าเปื่อย ให้ใช้ แบคโตเซล 4001 ผสมน้ำฉีดพ่นให้ทั่วตัว และบริเวณกีบเท้า อาการจะค่อยๆ ทุเลาลง
2. คอกวัว : ใช้แบคโตเซล 4001 ในอัตราเดียวกันฉีดพ่นให้ทั่วพื้นที่คอกกลิ่นเหม็นและแมลงวันจะลดลงและหมดไปในที่สุด อีกทั้งช่วยป้องกันโรคกีบเท้าเปื่อยในวัวเนื้อและวัวนมอีกด้วย
3. ฟาร์มไก่ : ใช้แบคโตเซล 4001 ในอัตราเดียวกัน ฉีดพ่นให้ทั่วพื้นที่บริเวณใต้เล้าไก่และที่รองรับมูลไก่ สำหรับไก่ไข่ จะสามารถกำจัดแก๊สไข่เน่า แก๊สแอมโมเนีย ซึ่งเป็นสาเหตที่ทำให้ไก่เป็นโรคตาอักเสบและโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งทำให้ไก่ไข่น้อยลง เปลือกไข่บางมีเปอร์เซ็นต์ไข่ร้าวและแตกสูง

ขนาดบรรจุ ; 300cc/1000cc/5000cc

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *