5 ลักษณะของดินดี เหมาะสมต่อการปลูกพืช

5 ลักษณะของดินดี เหมาะสมต่อการปลูกพืช

เพื่อนๆ อาจสงสัยกันว่าดินดีคืออะไร? วันนี้จะมาเล่าให้ฟัง ดินดีในทางการเกษตร คือดินที่สามารถใช้เพาะปลูกพืชได้เป็นอย่างดี โดยไม่จำเป็นต้องปรับปรุงบำรุงดินมากนัก เพราะดินดีมีปริมาณธาตุอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตของพืชที่เราปลูก ทำให้เราสามารถปลูกพืชได้โดยใช้วิธีการจัดการดูแลตามปกติ

ลักษณะของดินดี เป็นอย่างไร?

1.ดินดีมีอินทรียวัตถุสูง

อินทรียวัตถุ คือสิ่งที่ได้จากการย่อยสลายของซากพืชซากสัตว์ต่างๆ เช่น มูลสัตว์ เศษใบไม้ เศษตะกอนต่างๆ ที่ทับถมกันเป็นเวลานาน เมื่อสิ่งเหล่านี้ถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ตามธรรมชาติ ก็จะกลายมาเป็นอินทรียวัตถุนั่นเอง

อินทรียวัตถุช่วยทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย มีช่องว่างในเนื้อดินไว้เก็บอากาศและอุ้มน้ำ ทำให้พืชแตกรากดี รากชอนไชไปดูดซึมอาหารได้ง่าย มีอากาศหายใจ น้ำเพียงพอ และยังทำให้จุลินทรีย์ในดินดำรงชีวิตอยู่ได้ ช่วยดูดซับธาตุอาหารจากปุ๋ยเคมีเอาไว้ได้ เมื่อย่อยสลายตัวจะกลายเป็นธาตุอาหารให้แก่พืช

2.ดินดีมีธาตุอาหารเพียงพอ

พืชมีความต้องการธาตุอาหารสำคัญ 13 ชนิด ได้แก่ ไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, กำมะถัน, แคลเซียม, เหล็ก, แมงกานีส, สังกะสี, ทองแดง, โบรอน, โมลิบดีนัม และคลอรีน ซึ่งปกติแล้วธาตุอาหารเหล่านี้จะมีอยู่ในดินอยู่แล้ว เพื่อใช้ในการเจริญเติบโต แตกกิ่ง แตกกอ ผลิดอก ออกผล ให้ผลผลิต และจะแสดงอาการผิดปกติออกมาทางกายภาพหากขาดธาตุอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง

3.ดินดีมีสภาพทางเคมีเหมาะสม

ดินดีควรมีสภาพเป็นกลางหรือเป็นกรดอ่อนๆ pH ระหว่าง 5.5 -7.0 เพราะธาตุอาหารพืชส่วนมากแตกตัวและเคลื่อนย้ายได้ดีในสภาพนี้ ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดีในดินสภาพนี้ด้วย

4.ดินดีมีน้ำอุดมสมบูรณ์

น้ำในดินที่พบอยู่ในช่องว่างระหว่างอนุภาคดินหรือเม็ดดิน มีความสำคัญมากต่อการปลูก และการเจริญเติบโตของพืช เนื่องจากเป็นตัวช่วยในการละลายธาตุอาหารต่างๆ ในดิน เป็นส่วนสำคัญในการเคลื่อนย้ายอาหารพืชจากรากไปสู่ส่วนต่างๆของพืช และช่วยให้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดินมีชีวิตอยู่ได้

5.ดินดีไม่มีเชื้อโรคหรือแมลงสะสม

ดินดีต้องมีจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของโรคพืชในปริมาณพี่น้อยจนไม่สามารถทำร้ายพืชได้ และดินดีไม่ควรเป็นแหล่งสะสมของไข่หนอนและแมลงศัตรูพืช

ในการที่จะบอกได้ว่าพื้นที่ใดเป็นดินดีหรือไม่นั้น นอกจากลักษณะที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ต้องคำนึงถึงชนิดของพืชที่ปลูกในบริเวณนั้นว่ามีความต้องการดินแบบไหน เนื่องจากพืชแต่ละชนิดมีความต้องการสภาพแวดล้อมในการเจริญเติบโตที่แตกต่างกันไป

ตัวอย่างเช่น ดินดีที่เหมาะแก่การปลูกพืชไร่ หรือผลไม้ ควรเป็นดินที่มีหน้าดินหนา เนื้อดินเป็นดินร่วนหรือระบายน้ำได้ดีมีความอุดมสมบูรณ์ เพราะไม้ผลเป็นไม้ยืนต้นมีอายุหลายปี มีระบบรากลึก ต้องการดินที่มีความลึกกว่าพืชไร่ เพื่อที่รากพืชจะสามารถชอนไชลงไปหาอาหารและน้ำและรากพืชยึดเกาะดินได้ดีขึ้น แต่ถ้าจะปลูกข้าวซึ่งเป็นพืชที่ชอบน้ำ ดินดีที่เหมาะกับการปลูกข้าวคือดินที่อยู่ในที่ลุ่ม เนื้อดินเป็นดินเหนียวซึ่งจะช่วยให้ขังน้ำไว้ในนาข้าวได้

ไบโอนิค บีว่า (Bionic Beva) เป็นจุลินทรีย์ที่ช่วยกำจัดแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะพวกเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง แมลงหวี่ขาว แมลงเหล่าหนอนกอ หนอนห่อใบ ด้วงหมัดผัก

สรรพคุณ

  • ทำให้แมลงเบื่ออาหาร กินน้อยลง อ่อนเพลีย และไม่เคลื่อนไหว
  • สีผนังลำตัวแมลงมักจะเปลี่ยนไปปรากฎจุดสีดำบนบริเวณที่ถูกเชื้อราเข้าทำลาย
  • พบเส้ยใย และผงสีขาว ของสปอร์ปกคลุมตัวแมลงที่ถูกเชื้อราเข้าทำลาย


วิธีใช้

  • ผสมไบโอนิค บีว่ากับน้ำสะอาดฉีดพ่นบริเวณของลำต้น ควรฉีดในช่วงเช้าหรือเย็น ทุก ๆ 3-5 วัน ใช้ผลิตภัณฑ์ 1/3 ช้อนโต๊ะ (1ช้อนชา) ปริมาณน้ำ 1 ลิตร 
  • ถ้าผลิตภัณฑ์ 4 ช้อนโต๊ะ ปริมาณน้ำ 20 ลิตร หรือถ้าผลิตภัณฑ์ 10 ช้อนโต๊ะ (100 กรัม) ปริมาณน้ำ 100 ลิตร


ขนาดบรรจุ : 100 / 500 กรัม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *